มาเที่ยวกรุงเทพกันเถอะ...

เที่ยวไทยคึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก คำขวัญประโยคนี้เราเคยได้ยินมานานครับ แต่ยุคเศรษฐกิจแบบนี้จะไปเที่ยวไกล ๆ บางทีก็ไม่ไหว ทั้งกำลังทรัพย์และเวลาก็ไม่เอื้ออำนวยใช่มั้ยครับ เพราะฉะนั้น เราจึงขออาสาพาเที่ยวในเขตกรุงเทพฯ นี่แหละครับ บางทีของดีก็อยู่ไม่ไกลตัวเราเลย และนี่คือสถานที่ที่มีทั้งที่เที่ยว ที่เราคิดว่าครั้งนึงน่าจะได้ไปเยือนกันครับ.......


วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ร้านอาหารที่แนะนำ..โคขุนโพนยางคำ เกษตร-นวมินทร์ สาขาแจ้งวัฒนะ ไม่ต้องไปกินที่ สกลนครแล้ววว..

เนื้อโคขุนโพนยางคำ เป็นเนื้อโคธรรมชาติ Natural Beef ปราศจากฮอร์โมนหรือสารเร่งการเจริญเติบโต ที่มีการควบคุมและกำกับ ขั้นตอนต่างๆ อย่างเป็นระบบตั้งแต่การคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ การผสม การเลี้ยง การขุน จนถึงขบวนการผลิตเป็นเนื้อโคขุน ถูกสุขลักษณะตามหลักสากล ทำให้เนื้อโคขุนโพนยางคำเป็นเนื้อชั้นดี มีคุณภาพ ไม่แพ้เนื้อโคนำเข้าจากต่างประเทศ ที่เกริ่นนำกันมาเสียหลายวรรคตอน ก็เพียงเพื่อต้องการให้ท่านทั้งหลาย ได้ทราบที่มาที่ไปเกี่ยวกับคำว่า เนื้อโคขุนโพนยางคำ กันพอสังเขปสำหรับท่านที่ทราบอยู่แล้วก็ถือว่าเป็นการทบทวนกันอีกรอบก็แล้วกันนะครับ คำว่า โพนยางคำ จึงเปรียบเหมือนเครื่องหมายการค้าอันเป็นผลผลิตจากสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง บ้านโพนยางคำ ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนคร นั่นเองจวบจนเมื่อมีการเปิดร้านอาหารในแนวปิ้งย่างลวกจิ้ม โดยนำเนื้อโพนยางคำมาเป็นตัวชูโรง จึงทำให้ชื่อนี้เป็นที่ติดหูของผู้คนทั่วไป มากกว่าจะจำกัดอยู่ในหมู่นักนิยมบริโภคเนื้ออย่างแต่ก่อนคุณกฤตพล คงประสม หรือ คุณโด่ง ก็เป็นผู้พิสมัยรสชาติของเนื้อโคขุนอีกผู้หนึ่ง ที่ได้ลิ้มลองมาหมดแล้ว ทั้งของพื้นบ้านราคาหลักสิบต่อกิโลกรัม จนถึงของนำเข้าราคาวเรือนหมื่น สุดท้ายก็มาจบที่เนื้อโคขุนโพนยางคำ ร้านโคขุนโพนยางคำ เกษตร-นวมินทร์
 จึงเกิดขึ้นตามความชื่นชอบส่วนตัว ที่อยากแบ่งปันความรู้สึกนั้นให้กับนักชิมทั้งหลาย และอาจเรียกได้ว่าเป็นร้านในยุคแรก ซึ่งปลุกกระแสโพนยางคำ(สามคำจำให้มั่น) เลยก็คงไม่ผิดนักร้านแรกถือว่าได้รับการตอบรับ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้ขยายตัวเกิดสาขาแห่งที่สองคือ สาขาแจ้งวัฒนะแบ่งเบาภาระการเดินทางให้กับลูกค้าที่เคยเดินทางไปย่านเกษตร-นวมินทร์ ได้ไม่น้อยทีเดียว เริ่มเปิดทดลองระบบมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดเต็มตัวไปแล้วในชื่อ “โคขุนโพนยางคำ เกษตร-นวมินทร์ สาขาแจ้งวัฒนะ” นามเดิมเพิ่มสาขาต่อท้าย แต่ยังคงรักษามาตรฐานไว้คือ เป็นเนื้อโคขุนที่มีคุณภาพจากสหกรณ์ฯ โพนยางคำ โดยตรง

ด้วยความที่เนื้อจากสหกรณ์ฯ โพนยางคำ ผ่านการชำแหละในโรงชำแหละที่ได้มาตรฐาน กำกับดูแลโดยสัตวแพทย์ตลอดวงจรการผลิตมีระบบการจัดการกับตามหลักสากลเช่น การเก็บบ่ม (Chilled) ในห้องควบคุมอุณหภูมิ ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม ฯลฯ ก่อนจะนำส่งออกไปยังที่ต่างๆ การเก็บรักษาเนื้อจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ ผู้ที่จะนำเนื้อไปจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์จะอยู่ในธุรกิจร้านอาหารเป็นหลักคุณโด่งก็ได้ให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาในห้องเย็นที่ได้มาตรฐาน จัดวางอย่างถูกวิธี ซึ่งแม้แต่ผมเองก็เพิ่งจะทราบเหมือนกันว่าการเรียงเนื้อเข้าห้องเย็น ก็ต้องมีหลักวิชาการจัดวางเหมือนกัน ไม่ใช่วางสุ่มสี่สุ้มห้าเหมือนเขียงเนื้อตามตามตลาดทั่วไป ฟังคุณโด่งเล่าเรื่องราวต่างๆ พร้อมกับชิมอาหารที่ลำเลียงมาเป็นระยะๆ แล้ว ทำให้ได้ข้อคิดขึ้นมาว่า ถ้าคิดอยากจะเปิดร้านอาหารมันก็ทำได้ไม่ยากแต่จะทำให้ดีนั้นลำบากกว่าหลายเท่านัก หากเราซื่อสัตย์กับสิ่งที่ทำ สิ่งนั้นก็จะให้คุณกับเราเองส่วนเรื่องรสชาติผมไม่อยากจะพูดอะไรมาก ผ่านตลอดทั้งปิ้งย่าง กระทะร้อน ตุ๋น ยำ ทอด ฯลฯ ทั้งที่มีเนื้อเป็นวัตถุดิบหลัก ไปจนถึงเนื้อสัตว์อื่นๆ ทั้งบกและน้ำ เพราะถ้าไม่ดีจริงคงไม่มีสาขา 2 อันนี้ผมไม่ได้เชียร์นะครับ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น